สคีมาสําหรับหน้าถามและตอบ (QAPage) | Google Search Central  |  เอกสารประกอบ  |  Google for Developers (original) (raw)

Structured Data สำหรับถามและตอบ (QAPage)

ภาพแสดงผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียสำหรับคำถามและคำตอบ

หน้าถามและตอบคือหน้าเว็บที่มีข้อมูลในรูปแบบคำถามและคำตอบ โดยเริ่มด้วยคำถาม 1 ข้อและตามด้วยคำตอบของคำถามนั้น สำหรับเนื้อหาที่นำเสนอคำถามและคำตอบ คุณจะมาร์กอัปข้อมูลได้ด้วยประเภท QAPage, Question และ Answer ของ schema.org

หน้าที่มาร์กอัปอย่างถูกต้องจะมีสิทธิ์แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียในหน้าผลการค้นหา การจัดการข้อมูลสื่อสมบูรณ์นี้ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ใน Search ที่ตรงเป้าหมาย เช่น คุณอาจเห็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียสำหรับการค้นหาของผู้ใช้ "วิธีถอดสายที่ดึงออกจากพอร์ต USB ไม่ได้" หากหน้าเว็บมีการมาร์กอัปคำตอบของคำถามนั้น

นอกจากการมาร์กอัปหน้าถามและตอบจะเป็นการเปิดใช้เนื้อหาสำหรับการจัดการผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์แล้ว Google ยังสร้างตัวอย่างข้อมูลที่ดีขึ้นให้หน้าเว็บของคุณได้ด้วย เนื้อหาจากคำตอบอาจปรากฏในผลการค้นหาพื้นฐาน หากผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ไม่แสดงขึ้นมา

วิธีเพิ่มข้อมูลที่มีโครงสร้าง

ข้อมูลที่มีโครงสร้างคือรูปแบบมาตรฐานในการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหน้าและจำแนกประเภทเนื้อหาของหน้า หากคุณเพิ่งใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างเป็นครั้งแรก โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของข้อมูลที่มีโครงสร้าง

ต่อไปนี้เป็นภาพรวมเกี่ยวกับวิธีสร้าง ทดสอบ และเผยแพร่ข้อมูลที่มีโครงสร้าง ดูคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีเพิ่มข้อมูลที่มีโครงสร้างลงในหน้าเว็บได้ใน Codelab สำหรับข้อมูลที่มีโครงสร้าง

  1. เพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น ดูตำแหน่งการแทรก Structured Data ในหน้าเว็บตามรูปแบบที่คุณใช้อยู่
  2. ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
  3. ตรวจสอบความถูกต้องของโค้ดโดยใช้การทดสอบผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย และแก้ไขข้อผิดพลาดที่สําคัญทั้งหมด พิจารณาแก้ไขปัญหาที่ไม่สําคัญซึ่งอาจมีการรายงานในเครื่องมือด้วย เพราะอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพของ Structured Data ได้ (แต่ไม่จําเป็นว่าต้องมีสิทธิ์ปรากฏในผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย)
  4. ทำให้หน้าบางหน้าที่มีข้อมูลที่มีโครงสร้างใช้งานได้และใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL เพื่อทดสอบว่า Google เห็นหน้าในลักษณะใด ตรวจสอบว่า Google เข้าถึงหน้าดังกล่าวได้และไม่มีการบล็อกหน้าด้วยไฟล์ robots.txt, แท็ก noindex หรือข้อกำหนดให้เข้าสู่ระบบ หากหน้าเว็บดูถูกต้องดีแล้ว คุณขอให้ Google ทำการ Crawl URL อีกครั้งได้
  5. หากต้องการให้ Google ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอยู่ตลอด เราขอแนะนำให้ส่ง Sitemap ซึ่งกำหนดให้ดำเนินการแบบอัตโนมัติได้โดยใช้ Search Console Sitemap API

ตัวอย่าง

ตัวอย่างมาร์กอัปต่อไปนี้มีคำจำกัดความของประเภท QAPage, Question และ Answer ใน JSON-LD

JSON-LD

How many ounces are there in a pound?

Microdata

How many ounces are there in a pound?

52
I have taken up a new interest in baking and keep running across directions in ounces and pounds. I have to translate between them and was wondering how many ounces are in a pound?
3 answers
26 votes
1337
1 pound (lb) is equal to 16 ounces (oz).
Answer Link
42
Are you looking for ounces or fluid ounces? If you are looking for fluid ounces there are 15.34 fluid ounces in a pound of water.
Answer Link
0
I can't remember exactly, but I think 18 ounces in a lb. You might want to double check that.
Answer Link

หลักเกณฑ์

คุณต้องทำตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้เพื่อให้หน้า "ถามและตอบ" มีสิทธิ์สำหรับการจัดการข้อมูลสื่อสมบูรณ์ดังกล่าว

หลักเกณฑ์เนื้อหา

คำจำกัดความของประเภท Structured Data

ส่วนนี้จะอธิบายประเภท Structured Data ที่เกี่ยวข้องกับ QAPage

คุณต้องใส่พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็นลงในเนื้อหาเพื่อให้มีสิทธิ์แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย คุณอาจใส่พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำด้วยเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Structured Data ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

คุณใช้การทดสอบผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียของ Google เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและแสดงตัวอย่าง Structured Data

QAPage

ประเภท QAPage บ่งชี้ว่าหน้าดังกล่าวโฟกัสที่คำถามข้อเดียวและคำตอบของคำถามนั้น เราจะใช้ Structured Data Question จากหน้าที่มีมาร์กอัป QAPage เท่านั้น และจะต้องมีคําจํากัดความประเภท QAPage เพียง 1 รายการต่อหน้า

ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ QAPage ได้ที่https://schema.org/QAPage

ตารางต่อไปนี้จะอธิบายพร็อพเพอร์ตี้ของประเภท QAPage ที่ Google Search ใช้

พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น
mainEntity Question Question สำหรับหน้านี้ต้องฝังอยู่ใต้พร็อพเพอร์ตี้ mainEntity ของรายการ QAPage

Question

ประเภท Question จะกำหนดคำถามที่หน้านี้ตอบและรวมถึงคำตอบของคำถามนั้น (หากมี) ระบบคาดว่าหน้าเว็บจะมีประเภท Question จำนวน 1 รายการ โดยฝังอยู่ใต้พร็อพเพอร์ตี้ mainEntity ของ schema.org/QAPage และจะต้องมีคำจำกัดความประเภท Question เพียง 1 รายการต่อหน้า

ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ Question ได้ที่ https://schema.org/Question พร็อพเพอร์ตี้ที่ Google รองรับมีดังต่อไปนี้

พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น
answerCount Integer จำนวนคำตอบทั้งหมดของคำถามนั้น เช่น หากมี 15 คำตอบแต่มีการมาร์กอัปเพียง 10 คำตอบแรกเนื่องจากการใส่เลขหน้า ค่านี้จะเป็น 15 และค่านี้จะเป็น 0 สำหรับคำถามที่ไม่มีคำตอบ
acceptedAnswer หรือ suggestedAnswer ก็ได้ Answer คำถามต้องมีอย่างน้อย 1 คำตอบ ไม่ว่าจะเป็น acceptedAnswer หรือ suggestedAnswer เพื่อให้มีสิทธิ์แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม คำถามอาจไม่มีคำตอบตอนที่โพสต์เป็นครั้งแรก สำหรับคำถามที่ไม่มีคำตอบ ให้ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ answerCount เป็น 0 คำถามที่ไม่มีคำตอบจะไม่มีสิทธิ์แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ acceptedAnswer Answer คำตอบยอดนิยมของคำถาม อาจไม่มีเลยหรือมีมากกว่า 1 คำตอบต่อคำถาม คำตอบนี้ต้องเป็นคำตอบที่ได้รับการยอมรับในเว็บไซต์ เช่น ได้รับการยอมรับจากผู้ถาม ผู้ตรวจสอบ หรือระบบการโหวตว่าเป็นคำตอบยอดนิยม ต้องไม่ใช้การจัดเรียงคำตอบรูปแบบอื่นๆ เช่น คำตอบล่าสุด เพื่อระบุคำตอบยอดนิยม suggestedAnswer Answer คำตอบที่เป็นไปได้ 1 คำตอบ แต่ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคำตอบยอดนิยม (acceptedAnswer) โดยในคำถามหนึ่งๆ อาจไม่มีคำตอบเลยหรือมีมากกว่า 1 คำตอบ
name Text ข้อความทั้งหมดของคำถามแบบสั้น เช่น "1 ถ้วยเท่ากับกี่ช้อนชา"
พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำ
Person หรือ Organizationข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียนคำถาม โปรดทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนําเกี่ยวกับมาร์กอัปผู้เขียนเพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเกี่ยวกับผู้เขียนในฟีเจอร์ต่างๆ ได้ดีที่สุด ใส่พร็อพเพอร์ตี้ที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้เขียนให้มากที่สุด โดยใช้พร็อพเพอร์ตี้ที่รองรับจาก Structured Data สำหรับบทความและหน้าโปรไฟล์เป็นแนวทาง
author.url URL ลิงก์ไปยังหน้าเว็บที่ระบุผู้เขียนคำถามโดยไม่ซ้ำกัน ซึ่งโดยมากจะเป็นหน้าโปรไฟล์ของเว็บไซต์ถามและตอบ เราขอแนะนำให้มาร์กอัปหน้าดังกล่าวโดยใช้ Structured Data สำหรับหน้าโปรไฟล์
comment Comment ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับคำถาม (หากมี) ตามหลักการแล้ว เนื้อหานี้ไม่ใช่คำตอบ แต่มักจะเป็นการชี้แจงหรือพูดคุยเกี่ยวกับคำถาม
dateModified DateTime วันที่และเวลาที่มีการแก้ไขคำตอบ (หากมี) ในรูปแบบ ISO 8601
datePublished DateTime วันที่และเวลาที่โพสต์คำถามในรูปแบบ ISO 8601
image ImageObject หรือ URL รูปภาพในหน้าภายในคำถาม หากมี
text Text ข้อความทั้งหมดของคำถามแบบยาว เช่น "ฉันจะทำอาหารและอยากรู้ว่าถ้วยหนึ่งเท่ากับกี่ช้อนชา 1 ถ้วยเท่ากับกี่ช้อนชา"
upvoteCount Integer จำนวนคะแนนโหวตทั้งหมดที่คำถามนี้ได้รับ หากหน้ารองรับการโหวตเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ให้กำหนดค่า upvoteCount เป็นค่ารวมค่าเดียวที่แสดงถึงทั้งการโหวตเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เช่น หากมีการโหวตเห็นด้วย 5 คะแนนและไม่เห็นด้วย 2 คะแนน ค่ารวมที่ใช้กับ upvoteCount คือ 3 หากมีการโหวตเห็นด้วย 5 คะแนน แต่หน้าไม่รองรับการโหวตไม่เห็นด้วย ค่าของ upvoteCount จะเท่ากับ 5
video VideoObject วิดีโอในหน้าภายในคำถาม หากมี

Answer

ประเภท Answer กำหนดคำตอบที่แนะนำและยอมรับให้กับ Question ในหน้านี้ กำหนด Answers ภายใน Question เป็นค่าสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ suggestedAnswer และ acceptedAnswer

ตารางต่อไปนี้อธิบายพร็อพเพอร์ตี้ของประเภท Answer ที่ใช้ภายใน Question

ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ Answer ได้ที่ https://schema.org/Answer

พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น
text Text ข้อความทั้งหมดของคำตอบ หากมาร์กอัปเพียงบางส่วนของคำตอบ เนื้อหาอาจไม่แสดงและ Google จะเลือกข้อความที่ดีที่สุดเพื่อนำไปแสดงไม่ได้
พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำ
author Person หรือ Organizationข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียนคำตอบ โปรดทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนําเกี่ยวกับมาร์กอัปผู้เขียนเพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเกี่ยวกับผู้เขียนในฟีเจอร์ต่างๆ ได้ดีที่สุด ใส่พร็อพเพอร์ตี้ที่เหมาะกับผู้เขียนให้มากที่สุด โดยใช้พร็อพเพอร์ตี้ที่รองรับจาก Structured Data สำหรับบทความและหน้าโปรไฟล์เป็นแนวทาง
author.url URL ลิงก์ไปยังหน้าเว็บที่ระบุผู้เขียนคำตอบโดยไม่ซ้ำกัน ซึ่งโดยมากจะเป็นหน้าโปรไฟล์ของเว็บไซต์ถามและตอบ เราขอแนะนำให้มาร์กอัปหน้าดังกล่าวโดยใช้ Structured Data สำหรับหน้าโปรไฟล์
comment Comment ความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบ มักจะเป็นการชี้แจงหรือพูดคุยเกี่ยวกับคำตอบนั้นๆ หากมี
dateModified DateTime วันที่และเวลาที่แก้ไขคำตอบในรูปแบบ ISO 8601 หากมี
datePublished DateTime วันที่และเวลาที่มีการตอบคำถามในรูปแบบ ISO 8601
image ImageObject หรือ URL รูปภาพในหน้าภายในคำถาม หากมี
upvoteCount Integer จำนวนคะแนนโหวตทั้งหมดที่คำตอบนี้ได้รับ (หากมี) หากหน้ารองรับการโหวตเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ให้กำหนดค่า upvoteCount เป็นค่ารวมค่าเดียวที่แสดงถึงทั้งการโหวตเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เช่น หากมีการโหวตเห็นด้วย 5 คะแนนและไม่เห็นด้วย 2 คะแนน ค่ารวมที่ใช้กับ upvoteCount คือ 3 หากมีการโหวตเห็นด้วย 5 คะแนน แต่หน้าไม่รองรับการโหวตไม่เห็นด้วย ค่าของ upvoteCount จะเท่ากับ 5
url URL URL ที่ลิงก์มายังคำตอบนี้โดยตรง เช่น https://www.examplesite.com/question#answer1
video VideoObject หรือ URL วิดีโอในหน้าภายในคำตอบ (หากมี)

Comment

คุณสามารถใช้ประเภท Comment เพื่ออธิบายการชี้แจงหรือการสนทนาเกี่ยวกับคำถามหรือคำตอบที่ไม่ใช่คำถามและคำตอบได้ กำหนด Comments ภายใน Question หรือ Answer เป็นค่าสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ comment

ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ Comment ได้ที่ https://schema.org/Comment

พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น
text Text ข้อความทั้งหมดของความคิดเห็น หากมาร์กอัปเพียงบางส่วน Google อาจพิจารณาไม่ได้ว่าข้อความใดดีที่สุดสำหรับนำไปแสดง
พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำ
author Person หรือOrganization ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียนความคิดเห็น โปรดทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนําเกี่ยวกับมาร์กอัปผู้เขียนเพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเกี่ยวกับผู้เขียนในฟีเจอร์ต่างๆ ได้ดีที่สุด ใส่พร็อพเพอร์ตี้ที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้เขียนให้มากที่สุด โดยใช้พร็อพเพอร์ตี้ที่รองรับจาก Structured Data สำหรับบทความและหน้าโปรไฟล์เป็นแนวทาง
author.url URL ลิงก์ไปยังหน้าเว็บที่ระบุผู้เขียนความคิดเห็นโดยไม่ซ้ำกัน ซึ่งโดยมากจะเป็นหน้าโปรไฟล์ของเว็บไซต์ถามและตอบ เราขอแนะนำให้มาร์กอัปหน้าดังกล่าวโดยใช้ Structured Data สำหรับหน้าโปรไฟล์
comment Comment ความคิดเห็นที่เป็นชุดข้อความที่ฝังไว้ซึ่งตอบกลับความคิดเห็นนั้น หากมี
dateModified DateTime วันที่และเวลาที่แก้ไขความคิดเห็นในรูปแบบ ISO 8601 หากมี
datePublished DateTime วันที่และเวลาที่เขียนความคิดเห็นในรูปแบบ ISO 8601
image ImageObject หรือ URL รูปภาพในหน้าภายในความคิดเห็น หากมี
video VideoObject หรือ URL วิดีโอในหน้าภายในความคิดเห็น หากมี

ตรวจสอบผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ด้วย Search Console

Search Console เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบประสิทธิภาพของหน้าเว็บใน Google Search คุณไม่จำเป็นต้องลงชื่อสมัครใช้ Search Console เพื่อให้เนื้อหาได้แสดงในผลการค้นหาของ Google แต่การลงชื่อสมัครใช้จะช่วยให้คุณเข้าใจและปรับปรุงวิธีที่ Google เห็นเว็บไซต์ได้ เราขอแนะนำให้ไปดูข้อมูลใน Search Console ในกรณีต่อไปนี้

  1. หลังจากทำให้ข้อมูลที่มีโครงสร้างใช้งานได้เป็นครั้งแรก
  2. หลังจากเผยแพร่เทมเพลตใหม่หรืออัปเดตโค้ด
  3. วิเคราะห์การเข้าชมเป็นระยะ

หลังจากทำให้ข้อมูลที่มีโครงสร้างใช้งานได้เป็นครั้งแรก

หลังจากที่ Google ได้จัดทำดัชนีหน้าของคุณแล้ว ให้ตรวจหาปัญหาโดยใช้รายงานสถานะผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตามหลักแล้ว รายการที่ถูกต้องควรจะมีจํานวนเพิ่มขึ้น และรายการที่ไม่ถูกต้องไม่ควรจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น หากพบปัญหาในข้อมูลที่มีโครงสร้าง ให้ทำดังนี้

  1. แก้ไขรายการที่ไม่ถูกต้อง
  2. ตรวจสอบ URL ที่เผยแพร่เพื่อดูว่ายังมีปัญหาอยู่หรือไม่
  3. ขอการตรวจสอบโดยใช้รายงานสถานะ

หลังจากเผยแพร่เทมเพลตใหม่หรืออัปเดตโค้ด

เมื่อทําการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญในเว็บไซต์ ให้คอยตรวจสอบการเพิ่มขึ้นของรายการที่ไม่ถูกต้องของ Structured Data

วิเคราะห์การเข้าชมเป็นระยะ

วิเคราะห์การเข้าชมจาก Google Search โดยใช้รายงานประสิทธิภาพ ข้อมูลจะแสดงความถี่ที่หน้าปรากฏเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ใน Search ความถี่ที่ผู้ใช้คลิกหน้า และอันดับเฉลี่ยที่หน้าปรากฏในผลการค้นหา คุณจะใช้ Search Console API ดึงผลการค้นหาเหล่านี้โดยอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน

การแก้ปัญหา

หากประสบปัญหาในการใช้หรือแก้ไขข้อบกพร่องของ Structured Data โปรดดูแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ซึ่งอาจช่วยคุณได้